โคเดอีน (Codeine) ใช้เพื่อรักษาอาการปวดระดับเบาถึงระดับรุนแรงปานกลาง โคเดอีน เป็นยาแก้ปวดและ โคเดอีน เป็นยาในกลุ่มยาโอปิออยด์ (opioid pain medication) ซึ่งในบางครั้งยาโอปิออยด์จะถูกเรียกว่า เป็นยาเสพติด (narcotic)
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
ยา โคเดอีน ใช้สำหรับ
ยา โคเดอีน (Codeine) ใช้เพื่อรักษาอาการปวดระดับเบาถึงระดับรุนแรงปานกลาง โคเดอีน เป็นยาแก้ปวดและ โคเดอีน เป็นยาในกลุ่มยาโอปิออยด์ (opioid pain medication) ซึ่งในบางครั้งยาโอปิออยด์จะถูกเรียกว่า เป็นยาเสพติด (narcotic)
วิธีใช้ยาโคเดอีน
ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ยาโคเดอีนสามารถชะลอหรือหยุดการหายใจของคุณได้ ไม่ควรใช้ยาโคเดอีนในขนาดมากกว่าหรือนานกว่าที่กำหนด หากดูเหมือนยาโคเดอีนจะใช้บรรเทาอาการปวดของคุณไม่ได้ผล ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ยาโคเดอีนอาจจะเสพติดได้ แม้จะใช้ในขนาดยาปกติ ห้ามแบ่งปันยานี้กับผู้อื่น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีประวัติการติดยาเสพติด การใช้ยาแก้ปวดแบบเสพติด (Narcotic Medicine) อย่างไม่เหมาะสม สามารถนำไปสู่การเสพหรือใช้ยาเกินขนาด จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกับเด็กหรือผู้ที่ใช้ยาโดยไม่มีใบสั่งจากแพทย์ ในประเทศไทยโคเดอีนจัดเป็นยาเสพติดให้โทษทั่วไปประเภทที่ 2
รับประทานยาโคเดอีนคู่กับอาหารหรือนม เพื่อป้องกันอาการท้องไส้ปั่นป่วน
วัดขนาดของยาน้ำด้วยช้อนตวงแบบพิเศษ หรือถ้วยตวงยา หากคุณไม่มีเครื่องมือสำหรับตวง ควรถามจากเภสัชกร
ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันอาการท้องผูกขณะใช้ยาโคเดอีน ห้ามใช้ยาระบาย (laxative) โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
หากใช้ยาโคเดอีนติดต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ห้ามหยุดใช้ยาในทันทีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาการถอนยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ สอบถามแพทย์เกี่ยวกับวิธีการหลีกเลี่ยงอาการถอนยาเมื่อคุณหยุดใช้ยานี้
ควรเก็บยาโคเดอีนในอุณหภูมิห้อง ให้พ้นจากความชื้นและความร้อน
คอยนับปริมาณของยาที่ใช้ไปจากยาขวดใหม่แต่ละขวด ยาโคเดอีนเป็นยาเสพติด และคุณควรจะทราบหากมีใครใช้ยาของคุณอย่างไม่เหมาะสมหรือใช้โดยไม่มีใบสั่งยา
หลังจากที่คุณหยุดใช้ยาตัวนี้ ควรทิ้งยาที่ไม่ได้ใช้ลงในชักโครก การกำจัดยานี้โดยการทิ้งลงในชักโครกเป็นเรื่องที่แนะนำ เพื่อลดอันตรายจากการเผลอใช้ยาเกินขนาดจนถึงแก่ชีวิต คำแนะนำนี้ใช้สำหรับการใช้ยาในปริมาณน้อยเท่านั้น
การเก็บรักษายาโคเดอีน
ยาโคเดอีนควรเก็บควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาโคเดอีนบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาโคเดอีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาโคเดอีน
ในขณะที่กำลังตัดสินใจใช้ยานี้ คุณและแพทย์ควรพิจารณาความเสี่ยงและประโยชน์ของยาให้ถี่ถ้วน
สำหรับยาโคเดอีน ควรพิจารณาดังต่อไปนี้
การแพ้
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีอาการผิดปกติหรือเกิดอาการแพ้ใดๆกับยานี้หรือยาชนิดอื่น หรือหากคุณมีอาการแพ้ใดๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อม แพ้สารกันบูด แพ้สัตว์ สำหรับยาที่หาซื้อได้เอง ควรอ่านฉลากยาหรือส่วนประกอบให้ละเอียด
เด็ก
ยังไม่มีงานวิจัยที่เหมาะสมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอายุ กับประสิทธิภาพของยาโคเดอีนสำหรับกลุ่มประชากรที่เป็นเด็ก ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
ผู้สูงอายุ
ยังไม่มีงานวิจัยที่เหมาะสมที่พิสูจน์ปัญหาที่เกี่ยวกับผู้สุงอายุ โดยเฉพาะที่จะจำกัดประสิทธิภาพของยาโคเดอีน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุมักจะเกิดอาการสับสน ง่วงซึม โรคตับ โรคไต หรือโรคหัวใจที่เกี่ยวข้องกับอายุ ทำให้ต้องการความระมัดระวัง และการปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาโคเดอีน
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนใช้ยานี้
ยาโคเดอีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา มีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาโคเดอีน
เข้ารับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีอาการแพ้ ได้แก่ เกิดลมพิษ หายใจติดขัด มีอาการบวมที่ใบหน้า หรือลำคอ
เข้ารับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากเด็กที่ใช้ยาตัวนี้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ได้แก่ หายใจมีเสียงดัง หายใจช้า มีช่วงการหยุดหายใจนาน ง่วงผิดปกติ หรือตื่นได้ยาก ริมฝีปากเขียว
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังนี้
- หัวใจเต้นช้า ชีพจรอ่อน หมดสติ หายใจไม่อิ่ม
- รู้สึกเหมือนจะหมดสติ
- สับสน กระสับกระส่าย เห็นภาพหลอน มีความคิดหรือพฤติกรรมที่ไม่ปกติ
- รู้สึกมีความสุขมากหรือเศร้ามาก
- มีอาการชัก
- การปัสสาวะมีปัญหา
ผลค้างเคียงที่รุนแรงน้อยลงมา ได้แก่
- รู้สึกวิงเวียนหรือง่วงซึม
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- ท้องผูก
- เหงื่อออก
- คันเล็กน้อย หรือมีผดผื่น
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาโคเดอีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
การใช้ยาเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงบางอย่าง แต่การใช้ยาทั้งคู่อาจจะเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด หากคุณได้รับใบสั่งยานี้ร่วมกัน แพทย์อาจจะปรับขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งของคุณ
- อัลเฟนทานิล (Alfentanil) อัลปราโซแลม (Alprazolam) แอนิเลริดีน (Anileridine)
- บาโคลเฟน (Baclofen) โบรมาซีแพม (Bromazepam) บิวพรีนอร์ฟีน (Buprenorphine) บูโพรพิออน (Bupropion) บิวทอลบิทอล (Butalbital) บิวทอร์พานอล (Butorphanol)
- คาร์บินอกซาไมน์ (Carbinoxamine) คาริโซโพรดอล (Carisoprodol) คลอรอล ไฮเดรต (Chloral Hydrate) คลอไดอะซิปอกไซด์ (Chlordiazepoxide) คลอร์ซอกซ์เซโซน (Chlorzoxazone)
- โคลบาแซม (Clobazam) โคลนาซีแพม (Clonazepam) คลอราซีเพท (Clorazepate)
- แดนโทรลีน (Dantrolene) เดโซซีน (Dezocine) ไดอะซีแพม (Diazepam)
- เอสตาโซแลม (Estazolam) เอธคลอร์ไวนอล (Ethchlorvynol)
- เฟนทานิล (Fentanyl) ฟลูไนตราซีแพม (Flunitrazepam) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) ฟลูราซีแพม (Flurazepam)
- ฮาราเซแพม (Halazepam) ไฮโดรโคโดน (Hydrocodone) ไฮโดรมอร์โฟน (Hydromorphone)
- คีตาโซแลม (Ketazolam)
- เลวอร์ฟานอล (Levorphanol) ไลโปโซม (Liposome) ลอราซีแพม (Lorazepam) ลอร์เมทาเซแพม (Lormetazepam)
- มีไคลซีน (Meclizine) เมดาเซแพม (Medazepam) เมเพอริดีน (Meperidine) เมเฟเนซิน (Mephenesin) เมโฟบราบิทอล (Mephobarbital) เมโฟรบาเมต (Meprobamate) เมพเทซินอล (Meptazinol)
- เมตาซาโลน (Metaxalone) เมทาโดน (Methadone) เมโทคาร์บามอล (Methocarbamol) เมโธเฮกซิทาล (Methohexital) มิดาโซแลม (Midazolam) มอร์ฟีน (Morphine) มอร์ฟีนซัลเฟต (Morphine Sulfate)
- นาลบูฟีน (Nalbuphine) ไนตราซีแพม (Nitrazepam)
- ฝิ่น (Opium)
- ออเฟเนดรีน (Orphenadrine) ออกซาซีแพม (Oxazepam) ออกซิโคโดน (Oxycodone) ออกซิมอร์โฟน (Oxymorphone)
- เพนตาโซซีน (Pentazocine) พราเซแพม (Prazepam) โพรพอกซิฟีน (Propoxyphene)
- ควอเซแพม (Quazepam)
- รีมิเฟนทานิล (Remifentanil)
- โซเดียมออกซีเบต (Sodium Oxybate) ซูเฟนทานิล (Sufentanil) ซูโวเรกซ์เซนท์ (Suvorexant) ทาเพนทาดอล (Tapentadol) เทมาซีแพม (Temazepam) ทิซานิดีน (Tizanidine) ไตรอาโซแลม (Triazolam)
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาโคเดอีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาโคเดอีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะโรคต่อไปนี้
- โรคแอดดิสัน (Addison’s disease) ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมหมวกไตชนิดหนึ่ง
- เคยมีประวัติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือปอด เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease) โรคหัวใจเพราะปอด (cor pulmonale) ภาวะขาดออกซิเจน (hypoxia)
- ระบบประสาทกลางถูกกด (CNS depression)
- การติดยา โดยเฉพาะการติดยาแก้ปวด หรือเคยมีประวัติการติดยา
- ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia หรือ BPH)
- ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism)
- กระดูกสันหลังคด (Kyphoscoliosis) ที่สามารถส่งผลให้เกิดปัญหากับการหายใจได้
- มีอาการป่วยทางจิตป่วยทางจิต
- มีปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น
- เนื้องอกที่สมอง
- บาดเจ็บที่ศีรษะ
- ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง ผลข้างเคียงบางอย่างของยาโคเดอีน สามารถทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงกับผู้ที่มีอาการนี้
- ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ เช่น หอบหืด (asthma) มีคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในเลือดมาก (hypercapnia) จะมีปฏิกิริยารุนแรง
- ภาวะลำไส้ไม่เคลื่อนไหว (Paralytic ileus) หรือลำไส้อุดตัน
- การกดการหายใจ (Respiratory depression) เช่น ภาวะหายใจช้า (hypoventilation) ไม่ควรใช้ยากับผู้ที่มีอาการนี้
- ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension)
- ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis)
- เคยเกิดอาการชัก ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้อาการนี้แย่ลงได้
- โรคไต
- โรคตับ ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง ประสิทธิภาพอาจเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากกำจัดยาออกจากร่างกายได้ช้า
- ปัญหาที่กระเพาะอาหารหรือระบบย่อยอาหาร ยาตัวนี้อาจไปบดบังการวินิจฉัยโรคนี้ได้
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาโคเดอีนสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการไอ
ขนาดยาเริ่มต้น : 15 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
อาจปรับขนาดยาได้มากถึง 20 มก. ทุกๆ 4 ชั่วโมง
ขนาดยาสูงสุด : 120 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวด
ขนาดยาเริ่มต้น : 30 มก. รับประทาน หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทุกๆ 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
อาจปรับขนาดยาได้เพื่อให้ได้ผลของยาแก้ปวดเท่าที่ต้องการ
ขนาดยาได้สูงสุด : 60 มก. รับประทาน หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทุกๆ 4 ชั่วโมง
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรักษาอาการไอ
ขนาดยาเริ่มต้น : 10 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
อาจปรับขนาดยาด้วยความระมัดระวังได้มากถึง 20 มก. ทุกๆ 4 ชั่วโมง
ขนาดยาสูงสุด : 120 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรักษาอาการปวด
ขนาดยาเริ่มต้น : 15 มก. รับประทาน หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทุกๆ 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
อาจปรับขนาดยาได้เพื่อให้ได้ผลของยาแก้ปวดเท่าที่ต้องการ
ขนาดยาสูงสุด : 60 มก. รับประทาน หรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทุกๆ 4 ชั่วโมง
ขนาดยาโคเดอีนสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการไอ
อายุ 2 ถึง 6 ปี : 2.5 ถึง 5 มก. รับประทานทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสูงสุด : 30 มก./วัน
อายุ 6 ถึง 12 ปี : 5 ถึง 10 มก. รับประทานทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง
ขนาดยาสูงสุด : 60 มก./วัน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการปวด
อายุ 1 ปีขึ้นไป : 0.5 มก./กก. หรือ 15 มก./ตร.ม. รับประทาน หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมง เท่าที่จำเป็น
รูปแบบของยาโคเดอีน
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาผง
- ยาเม็ด 15 มก. 30 มก. 60 มก.
- ยาฉีด 15 มก./มิลลิลิตร 30 มก./มิลลิลิตร 60 มก./มิลลิลิตร 600-1200 มก./มิลลิลิตร
- ยาน้ำใส 3-15มก./ 5 มิลลิลิตร
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
อาการของการใช้ยาเกินขนาดมีดังนี้
- หายใจติดขัด
- ง่วงซึมอย่างรุนแรง
- หมดสติ
- สูญเสียความตึงตัว ของกล้ามเนื้อ
- ผิวเย็นชื้น
- หน้ามืด
- วิงเวียน
- หัวใจเต้นช้า
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า